แบล็คแจ็ค แบบ Insurance ควรทำเมื่อไร่จึงไม่เสี่ยง และคุ้มค่า

แบล็คแจ็ค มีการเล่นแบบ Insurance เช่นเดียวกับ บาคาร่า ใน คาสิโนออนไลน์ และเกมอื่นๆ ซึ่งประกันภัยนี้ หากคุณเป็นพนันรุ่นเก่าที่เล่นมานาน ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ยากว่าเจอสถานการณ์แบบไหนจึงควรซื้อประกันภัย แต่กับนักพนันหน้าใหม่ ที่เพิ่งเข้ามาทดลองเล่นเกมนี้ การซื้อประกันภัยจะเป็นที่ตัดสินยากมาก เพราะส่วนใหญ่มือใหม่จะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรซื้อประกันภัย และประกันภัยนี้ดี หรือไม่ดีอย่างไร ควรซื้อหรือไม่ ซื้อแล้วได้อะไร เราไปทำความเข้าใจพร้อมกัน


ความหมายของประกันภัย Insurance หรือการซื้อประกันภัยในเกม แบล็คแจ็ค นั้น คือตัวช่วยที่จะทำให้เงินเดิมพันของคุณไม่หมดไปกับการเดิมพันที่ผิดพลาด โดยดีลเลอร์จะถามคุณว่าต้องการซื้อประกันหรือไม่ เมื่อไพ่ใบแรกของดีลเลอร์เปิดมามีคะแนนที่ดี อย่าง 10 หรือ A ซึ่งมีโอกาสสูงที่ไพ่ใบที่คว่ำอยู่จะทำให้ดีลเลอร์ชนะ และหากไพ่คุณไม่ดีนัก หรือคุณไม่ต้องการที่จะเสี่ยงให้คุณซื้อประกันภัยทันที และหากผลออกมาว่าดีลเลอร์ชนะจริง ๆ คุณจะเสียเงินเดิมพันแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

ข้อดีข้อเสีย เป็นข้อดีสำหรับนักพนันหน้าใหม่ เล่น คาสิโนออนไลน์ หรือนักพนันที่ไม่มีเทคนิคการเล่นใด ๆ นับไพ่ไม่เป็น เดินเงินไม่เป็น แต่คุณจะต้องแน่ใจก่อนว่าไพ่ในมือของคุณแย่จริง ๆ ไ ม่มีโอกาสสู้จริง ๆ จึงจะซื้อประกันภัยได้คุ้มค่า แต่หากว่าไพ่ในมือของคุณดี และมีโอกาสที่จะสู้ได้ชนะ ไม่ควรซื้อประกัน เพราะหากผลออกมาว่าคุณชนะเจ้ามือจริง ๆ คุณจะได้เงินเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ดังนั้นกฎง่าย ๆ สำหรับการซื้อประกันภัยคือ เมื่อมีคะแนนรวมต่ำกว่า 16 คะแนนควรจะซื้อประกันภัยทันที หากคะแนนเกิน 16 คะแนนไม่ต้องซื้อประกันภัย

เทคนิคการเอาชนะเกม แบล็คแจ็ค ใน คาสิโนออนไลน์ แบบเข้าใจง่าย

จริงอยู่ว่ารูปแบบการเล่นเกม แบล็คแจ็ค นั้นอยู่ที่การพยายามทำให้ไพ่ในมือมีคะแนนใกล้เคียงกับ 21 คะแนนมากที่สุดเพื่อชัยชนะ แต่ในด้านเทคนิคแล้ว การจดจ่ออยู่ที่ความพยายามทำคะแนนรวมนี้ เป็นการกระทำที่ผิดวัตถุประสงค์ เพราะหากคุณต้องการชัยชนะ คุณจะต้องตั้งเป้าหมายไปที่การพยายามเอาชนะเจ้ามือให้ได้เท่านั้น นั่นหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีไพ่ที่ใกล้เคียงกับ 21 คะแนนในมือ คุณเพียงมีคะแนนรวมให้มากกว่าเจ้ามือเท่านั้น คุณจะเป็นผู้ชนะทันที ซึ่งเทคนิคในการเอาชนะมีรายละเอียดที่น่าสนใจคือ


คุณควรรู้ว่าควร Hit และ Stand เมื่อไหร่ ซึ่ง Hit  คือการจั่วเพิ่ม ส่วน Stand คือการหยุดไม่จั่ว การรู้และเข้าใจจังหวะว่าเมื่อไหร่ควรจั่ว และเมื่อไหร่ควรหยุด จะช่วยให้คุณชนะเกมได้ง่ายขึ้น ทำได้โดย เมื่อคุณบวกไพ่ 2 ใบได้คะแนน 0-11 คะแนน นี่คือจังหวะที่คุณต้อง Hit จั่วเพิ่ม แต่หากไพ่ในมือมีคะแนน 12-15 คะแนน ให้คุณรอดูไพ่ของดีลเลอร์ ว่าใบแรกของดีลเลอร์นั้นเป็นไพ่สูงหรือต่ำ หากไพ่ใบแรกของดีลเลอร์เป็น 2-6 คะแนน ก็มีโอกาสที่ดีลเลอร์อาจจะทำให้ไพ่มีคะแนนเกิน 21 ได้ได้ เพราะดีลเลอร์หรือเจ้ามือจะต้องเรียกไพ่ให้ได้ 17 คะแนน หากดีลเลอร์ได้ไพ่สูงคือ 7-10 คะแนน โอกาสที่ดีลเลอร์จะชนะมีสูงมากทีเดียว ดังนั้นคุณควร Stand หยุดไว้ก่อน สรุปคือ จั่วเพิ่มทันทีที่คะแนนต่ำกว่า 11 และหยุดทันทีที่คะแนนสูงกว่า 16 คะแนน 

การเล่นเกม คาสิโนออนไลน์ ทุกเกม คุณควรรู้จังหวะการเข้าเดิมพัน การหยุด การถอยของแต่ละเกมให้ดี ไม่จำเพาะแบล็คแจ็ค เท่านั้น เพราะจังหวะที่ดี เพิ่มโอกาสชนะให้สูงขึ้น แต่หากขาดจังหวะการเดิมพันจะมีความเสี่ยงสูงขึ้นแทน 

By neo